เรียนต่อแคนาดา ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียม ล่าสุดตาม IRCC

เรียนต่อแคนาดา ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียม ขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัยหลายปัจจัย อาทิ เช่น ค่าเล่าเรียนของแต่ละสถาบัน เมืองที่เลือกไปเรียน ลักษณะของที่พัก ค่าเดินทาง ประกันสุขภาพ ค่าใช้จ่ายในการขอวีซ่านักเรียน ค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน นอกจากการเตรียมงบประมาณเป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้อุปสรรคทางการเงินไม่มารบกวนแผนระยะยาวของการเรียน การวางแผนค่าใช้จ่ายอย่างเหมาะสมยังช่วยลดความเสี่ยงในการถูกปฏิเสธวีซ่านักเรียน เนื่องจากนักเรียนไทย จำเป็นต้องยื่นวีขอซ่าแคนาดา พร้อมทั้งใบอนุญาติเรียน ในการเดินทางเข้ามาเรียนที่แคนาดา นักเรียนจำเป็นต้องแนบเอกสาร Proof of sufficient funds evidence หนึ่งในเอกสารสำคัญเพื่อยืนยันว่า นักเรียนมีงบประมาณเพียงพอ ต่อการพำนักในประเทศแคนาดา ตามระยะเวลาที่กำหนดในใบตอบรับเข้าเรียน หรือ Letter of Acceptance พร้อมกับเอกสารอื่นๆไป และเรื่องการเงินเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของการถูกปฏิเสธวีซ่าอีกด้วย

Authorized representative หรือ Educational Agent จากสถาบัน โดยตรง เราได้รับการมอบหมาย ค่าใช้จ่ายจากสถาบันต้นสังกัด ในการดูแลนักเรียนในประเทศนั้นๆ นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการยื่นสมัครเรียนแล้ว Educational Agent ยังสามารถแนะนำข้อมูลการเตรียมเอกสารให้เหมาะสมตามข้อกำหนดของสัญชาติไทยในการขอวีซ่าอีกด้วย ตัวอย่าง สถาบันที่เป็น Partnerกับเรา เช่น University of Regina

Big Box Education มีความเชี่ยวชาญเรื่องข้อมูลเชิงลึก เรื่องการเลือกสถาบันการในการเลือก ” เรียนต่อแคนาดา ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียม ” ให้เหมาะสมกับ Budget

อย่างไรแล้ว น้องๆ สามารถประเมินจากขได้คร่าวๆดังนี้

1. การลือกไป เรียนต่อแคนาดา ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียม สถาบันรัฐ vs เอกชน แตกต่างกัน

• ประเภทสถาบันศึกษา ได้แก่ สถาบันภาครัฐ เอกชน
• ระดับการศึกษา อาทิเช่น  เรียนภาษาที่แคนาดา สามารถเลือกเรียนได้ทั้งสถาบันภาครัฐและเอกชน  หลักสูตร Diploma ปริญญาตรี และประกาศนียบัตรขั้นสูง  จะมีค่าใช้จ่ายโดยประมาณที่ 15,000 – 35,000 CAD ต่อปี หลักสูตรระดับปริญญาโท 17,000 – 50,000 CAD ต่อปี  

การเรียนกับสถาบันภาครัฐ มักมีเล่าเรียน สูงกว่า เนื่องจาก สถาบันรัฐทำงานร่วมกับภาคเอกชนท้องถิ่น และเน้นพัฒนาหลักสูตรตามความต้องการของตลาดในแต่ละปี นอกจากนี้เรียนต่อแคนาดากับสถาบันภาครัฐ มีข้อดีที่แตกต่าง คือ ใบอนุญาตทำงานหลังเรียนจบ สามารถดูข้อมูลจากจากบทความ เรียนต่อแคนาดา นักเรียนต่างชาติแห่มาเรียนติดอันดับ 4 ของโลก

2. เรียนต่อแคนาดา ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียม ขึ้นกับอัตราค่าครองชีพแต่ละเมืองด้วย

ค่าครองชีพในแต่ละเมืองมีความแตกต่างกันไปตามเมืองที่เลือก อาทิ เช่น เมืองใหญ่ โตรอนโต (Toronto) หรือ Vancouver จะมีอัตราค่าครองชีพสูงกว่าเมืองเล็กๆ อย่าง ออตตาวา (Ottawa) ซัสกาตูน (Saskatoon), รีไจน่า (Regina), เอ็ดมันตัน (Edmonton)  

ยกตัวอย่าง ค่าใช้จ่ายที่พักในเมือง Regina และ เอ็ดมันตัน ที่เป็นเมืองขนาดเล็ก มีค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ดังนี้ 

• ที่พักในหอพักมหาวิทยาลัย: 8,000 – 15,000 CAD ต่อปี
• เช่าอพาร์ตเมนต์ (แชร์กับเพื่อน): 500 – 1,500 CAD ต่อเดือน
• ค่าอาหาร: 250 – 600 CAD ต่อเดือน

อย่างไรก็ตาม การลงทุนเลือกเมืองหลักที่อาจมีค่าครองชีพสูง มีข้อได้เปรียบในแง่ Connection กับผู้ประกอบการ เนื่องจากบริษัท ฯ ชั้นนำที่มักจะตั้งอยู่ที่ เมืองหลัก อาทิ เช่น โตรอนโต (Toronto) แวนคูเวอร์( Vancouver) คัลการี (Calgary) 

3. ประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ

รัฐบาลแคนาดากำหนดให้นักเรียนต่างชาติที่เดินทางมา เรียนต่อแคนาดา จะต้องเตรียมและ Pre Purchase ประกันสุขภาพก่อนเดินทางมาเรียนในทุกหลักสูตร ในการสมัครเรียนของสถาบันรัฐบาล ค่าประกันสุขภาพมักจะถูกรวมเข้าไปในค่าเรียนของสถาบันรัฐ แต่หากเป็นสถาบันเอชน นักเรียนจำเป็นต้องซื้อประกันเพิ่มเติมจากบริษัท ฯ ที่ได้รับการรับรอง อาทิ เช่น ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ Guard.me จากตัวแทนออกตั๋วประกันโดยตรง ทั้งนี้ Bigboxedu เป็น Authorized Insurance representative ที่นักเรียนสามารถยื่นซื้อประกันได้โดยตรง 

4. ค่าธรรมเนี่ยมการยื่นขอวีซ่านักเรียน (Study Permit)

• ค่าธรรมเนียมขอวีซ่า: 150 CAD
• ค่าธรรมเนียมเก็บข้อมูลชีวภาพ (Biometrics): 85 CAD
• ค่าเอกสารแปลและรับรองเอกสาร (ถ้ามี): ประมาณ 50 – 200 CAD
• ค่าตรวจสุขภาพ (ขึ้นอยู่กับคลินิกที่ได้รับอนุญาต): 250 – 350 CAD

5. ค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายอื่นๆ

• ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับไทย – แคนาดา: 1,000 – 2,500 CAD (ขึ้นอยู่กับสายการบินและช่วงเวลาเดินทาง)
• ค่าขนส่งสาธารณะ: 80 – 160 CAD ต่อเดือน
• ค่าอุปกรณ์การเรียนและหนังสือ: 500 – 1,000 CAD ต่อปี
• ค่าใช้จ่ายส่วนตัว (เสื้อผ้า, ความบันเทิง, เที่ยวเล่น): 200 – 500 CAD ต่อเดือน

เคล็ดลับช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย

• เลือกเรียนในเมืองที่ค่าครองชีพต่ำ
• หาที่พักแบบแชร์ห้องกับเพื่อน
• ทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียน (นักเรียนต่างชาติทำงานได้สูงสุด 20 ชั่วโมง/สัปดาห์) และช่วงปิดเทอม ไม่จำกัด หากถือ Study Permit กับสถาบันภาครัฐ
• ใช้สิทธิ์ลดค่าเดินทางและค่าอาหารที่ร้านค้าที่มีส่วนลดสำหรับนักเรียน
• วางแผนการเดินทาง แต่เนิ่นๆ เพื่อให้การเรียนมุ่งสู่เป้าหมายที่ชัดเจน ตามระยะเวลาที่กำหนด